Check-in 9 รีสอร์ทกลางป่า ไปแล้วไม่เหนื่อยล้าแน่นอน

 

    อย่างคำที่คนชอบพูดกันว่า “ถ้าเราเหนื่อยล้า..จงเดินเข้าป่า” วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ เหล่ามนุษย์เงินเดือนผู้แสนอาภัพ จิตใจอ่อนล้า เตรียมกระเป๋าให้พร้อมออกเดินเข้าป่าไปพร้อมกับแป๋ว 9 รีสอร์ทสุดชิคกลางป่ารอเราอยู่ ไม่ต้องเหนื่อยล้า ไม่ต้องปวดร้าว แค่พักคืนนึงก็รู้สึกดีขึ้นเป็น 100 เท่า :)

 

 

เดอะ เบอร์เดอร์ส ลอดจ์

พิกัด: หมู่10 ต.หมูสี ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ราคาเริ่มต้น: 3,000 บาท

 


    ที่แรกขอมาแนวชิคๆ อินเขาใหญ่ กับรีสอร์ทสไตล์โฮมมี่ที่แสนอบอุ่น เก๋ไก๋ด้วยมุมถ่ายรูป มองไปทางไหนก็เจอวิวป่า วิลล่าแต่ละหลังออกแบบต่างกัน ใช้กระจกดีไซน์ให้ดูโปร่ง แต่เป็นส่วนตัวสุดๆ พักปุ๊บ แถมเตาปิ้งย่างและจักรยานปั่นชมวิวด้วยนะเออ

 

 

พราวภูฟ้า รีสอร์ท

พิกัด: หมู่1 ถนนแม่ริม-สะเมิง ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
ราคาเริ่มต้น: 2,500 บาท

 


     นั่งเครื่องยะเนิบเนิบมาเชียงใหม่กันเจ้า ป่าไม้และธรรมชาติบริสุทธิ์ของอ.แม่ริมมันดี๊ดีต่อใจเหลือเกิน รีสอร์ทสร้างอย่างอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นมิตรและไม่ทำลายโลกของเรา ภายใต้คอนเซ็ปต์ Hip & Green Resort  ทำให้ห้องพักของที่นี่ร่มรื่น อากาศเย็นตลอดทั้งปี นั่งชิลล์ตรงระเบียงห้อง ชมวิวลำธารไหลเอื่อยๆ หรือนั่งแช่จากุชชี่จิบกาแฟ จะแบบไหนก็มีแต่ความสุขรอเราอยู่

 

 

วานิลลา ฮิลล์

พิกัด: หมู่5 ต.บ้านโป่ง อ.หางดง จ.เชียงใหม่
ราคาเริ่มต้น: 3,200 บาท

 


    หรืออีกชื่อคือ Hill Lodge วิลล่าแสนโรแมนติกท่ามกลางธรรมชาติ อยากพักแบบไหนที่นี่จัดให้ สปา ซาวน่า ห้องอาหาร บริการทัวร์ ชมวิวป่าไม้แบบพาโนรามา นอนหลับฝันดีใต้แสงดาว เหมือนก้าวเข้ามาอีกโลกใบนึงที่เราหาไม่ได้จากในเมือง

 

 

เฟิร์น พาราไดซ์ รีสอร์ท

พิกัด: หมู่5 ต.สันทรายหลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
ราคาเริ่มต้น: 1,600 บาท

 


    ยังอยู่กันที่เชียงใหม่อยู่นะเจ้า สถาปัตยกรรมและดีไซน์แบบล้านนาท้องถิ่น ทำให้เราได้กลิ่นอายของภาคเหนืออย่างชัดเจน ระเบียงส่วนตัวมองเห็นวิวธรรมชาติที่สวยงดงาม ทุกอย่างดูเรียบง่ายแต่ก็มีเสน่ห์ เรียกว่า Back to Basic แบบสมบูรณ์แบบจริงๆ ค่ะ

 

 

บ้านไร่ไออรุณ ฟาร์มสเตย์

พิกัด: ต.กะเปอร์ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง
ราคาเริ่มต้น: สอบถามราคากับทางรีสอร์ท

 


    ฟาร์มสเตย์ที่ทำให้คุณไม่อยากกลับกรุงเทพเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะอะไรน่ะเหรอ? บอกเลยว่าทุกอย่างของที่นี่เลยแหละ อบอุ่นเหมือนบ้าน ตกแต่งน่ารักน่าถ่ายรูป กินอยู่อย่างพอดี อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แถมมีโซนสินคาเกษตร พืชผักสวนครัว และสวนอาหารที่ซื้อกลับทานที่บ้านก็ยังได้ เรียกว่าเป็นความธรรมดาที่โ-ค-ต-รจะมีความสุขเลยล่ะ!


 

บ้านต้นไม้

พิกัด: หมู่บ้านแม่แมะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
ราคาเริ่มต้น: 350 บาท/คน

 


    โฮมสเตย์ที่อบอุ่นใจกลางธรรมชาติ ลานกว้างชมวิวทิวเขาและทะเลหมอกของเชียงดาว มุมอ่านหนังสือชิลล์ๆ หรือทานอาหารสไตล์ขันโตก อยากมาใช่มะ? ไปได้ทุกเดือนจ๊ะ ไม่ว่าจะฤดูไหนก็อากาศเย็น อยากสโลว์ไลฟ์มาอยู่ป่า ต้องมาลองที่นี่ซะก่อน แล้วจะติดใจ

 

 

บ้านสวนจันทิตา

พิกัด: หมู่5 ต.สะแกกรัง อ.เมือง จ.อุทัยธานี
ราคาเริ่มต้น: 3,000 บาท

 


    ใครจะไปคิดว่าอุทัยธานีจะมีรีสอร์ทชิคๆ แบบนี้ โฮมสเตย์บ้านไม้แทรกตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ ด้านในโปร่ง ร่มรื่นอากาศสบายๆ ต้นไม้ทุกต้นมีความหมายมาก เพราะเจ้าของรีสอร์ทลงทุนปลูกเองทั้งหมด ใช้เวลากว่า 30 ปีเลยนะ เพราะฉะนั้นการได้พักผ่อนที่นี่ เหมือนเป็นการชาร์จแบตไปในตัวได้ดีมากทีเดียวเชียว

 

 

ไร่แสงอรุณ รีสอร์ท

พิกัด: หมู่3 บ้านผากุบ ต.ริมโขง จ.เชียงราย
ราคาเริ่มต้น: 2,500 บาท

 


    ความเป็นส่วนตัวและสงบแบบที่หลายคนใฝ่ฝัน เรียบง่ายแต่ใกล้ชิดธรรมชาติ บ้านทุกหลังซ่อนตัวในแนวไม้และป่าไผ่ กลมกลืนกับธรรมชาติ หนีทุกความวุ่นวายหันหน้าเข้าหาความอบอุ่น ชมวิวทุ่งนาและท้องฟ้าเดียวกับในกรุงเทพ แต่สวยกว่าเป็นร้อยเท่า

 

 

บางกอก ทรี เฮาส์

พิกัด: หมู่1 บางน้ำผึ้ง จ.สมุทรปราการ
ราคาเริ่มต้น: 3,900 บาท

 


    เข้าป่าใกล้กรุง นั่งเรือมาบางกระเจ้าสิคะ รีสอร์ทยอดฮิตของที่นี่ ล้อมรอบด้วยชุมชนบางน้ำผึ้งและแม่น้ำ กลมกลืนกับธรรมชาติภายใต้คอนเซ็ปต์แนวอีโค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานลมและแสงอาทิตย์มาปั่นไฟ ไฮไลท์อยู่ที่ห้องพักชมวิวมุมท็อปได้แบบสุดๆ มีห้องทั้งแบบครอบครัว คู่รัก พักคนเดียว หรือห้องพักสุดคูลอย่างห้องพักรูฟท็อปนอนใต้แสงดาว ไม่มีผนัง แต่โรแมนติกแบบไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยีอะไรให้วุ่นวาย